ขายเกลือเสริมไอโอดีนถุงเล็ก

ขายเกลือไอโอดีน

  ขายเกลือบริโภคเสริมไอโอดีน ถุงเล็ก ขายส่งเหมาะสำหรับ ร้านค้าปลีก-ร้านค้าส่ง เพื่อจำหน่ายหรือ โรงพยาบาล สาธารณสุข รพ.สต.​ โรงพยาบาลส่งเสริม...

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ดูแลร่างกาย แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ดูแลร่างกาย แสดงบทความทั้งหมด

สร้างสปาส่วนตัวที่บ้านด้วยเกลือขัดผิวสูตรธรรมชาติ

 การทำเกลือสปาเองที่บ้านเป็นวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณได้ผ่อนคลายและบำรุงผิวไปพร้อมๆ กันค่ะ เกลือสปาช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น และยังช่วยลดเซลลูไลท์ได้อีกด้วย

ส่วนผสมหลักของเกลือสปา

  • เกลือ: ควรเลือกเกลือเม็ดละเอียด เพื่อไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนบนผิว
  • น้ำมันพืช: เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันอัลมอนด์ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
  • ส่วนผสมเสริม:
    • น้ำผึ้ง: ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น
    • น้ำมันหอมระเหย: ช่วยให้ผ่อนคลาย เช่น ลาเวนเดอร์ ยูคาลิปตัส
    • สมุนไพร: เช่น ขมิ้นชัน ขิง ช่วยบำรุงผิวและลดการอักเสบ

สูตรเกลือสปาเบื้องต้น

  • เกลือเม็ดละเอียด 1 ถ้วย
  • น้ำมันมะพร้าว 1/4 ถ้วย
  • น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอมระเหย 10-15 หยด (ตามกลิ่นที่ชอบ)

วิธีทำ

  1. ผสมส่วนผสม: นำเกลือ น้ำมันมะพร้าว น้ำผึ้ง และน้ำมันหอมระเหยใส่ภาชนะผสม คนให้เข้ากันจนได้เนื้อสัมผัสที่ต้องการ
  2. ปรับสูตร: สามารถเพิ่มหรือลดปริมาณส่วนผสมต่างๆ ได้ตามความชอบ เช่น หากต้องการเกลือขัดผิวที่มีเนื้อละเอียดมากขึ้น สามารถเพิ่มน้ำมันมะพร้าวได้
  3. เก็บรักษา: เก็บเกลือสปาที่ทำเสร็จแล้วในภาชนะที่ปิดสนิท เก็บไว้ในที่เย็นและแห้ง

วิธีใช้

  1. ขัดผิว: หลังจากอาบน้ำให้ผิวเปียกชุ่ม นำเกลือสปามาทาให้ทั่วร่างกาย โดยเน้นบริเวณที่มีผิวหยาบกร้าน เช่น ข้อศอก เข่า
  2. นวดเบาๆ: นวดวนเป็นวงกลมเบาๆ ประมาณ 5-10 นาที
  3. ล้างออก: ล้างออกด้วยน้ำสะอาด แล้วตามด้วยครีมบำรุงผิว

สูตรเกลือสปาอื่นๆ ที่น่าสนใจ

  • เกลือสปาขมิ้น: ช่วยลดรอยดำ รอยแดง และลดการอักเสบ
  • เกลือสปาชาโคล: ช่วยดูดซับสิ่งสกปรกและไขมันส่วนเกิน
  • เกลือสปาข้าวโอ๊ต: ช่วยลดอาการคันและระคายเคือง

ข้อควรระวัง

  • ผิวบอบบาง: หากมีผิวบอบบาง ควรทดลองใช้เกลือสปาในบริเวณเล็กๆ ก่อน เพื่อดูว่ามีอาการแพ้หรือระคายเคืองหรือไม่
  • แผลเปิด: ไม่ควรใช้เกลือสปาบริเวณที่มีแผลเปิด
  • ความถี่: ควรใช้เกลือสปาประมาณ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์

เคล็ดลับเพิ่มเติม

  • ปรับสูตรตามสภาพผิว: สำหรับผิวแห้ง สามารถเพิ่มน้ำมันมะพร้าว หรือน้ำผึ้งได้
  • ผ่อนคลาย: เปิดเพลงที่ชอบ หรือจุดเทียนหอมระหว่างทำสปา เพื่อเพิ่มความผ่อนคลาย

การทำเกลือสปาเองที่บ้านเป็นกิจกรรมที่สนุกและช่วยให้คุณได้ดูแลตัวเองอย่างเต็มที่ ลองทำตามสูตรที่แนะนำ หรือปรับเปลี่ยนสูตรตามความชอบของคุณเอง เพื่อให้ได้เกลือสปาที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุดค่ะ

กินเกลือมากไปก็ไม่ดี

    คนไทยกินเกลือเกินจำเป็นเสี่ยงอัมพฤกษ์


       เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ซอยศูนย์วิจัย ผศ.นพ.สุรศักดิ์ กันตชูเวสศิริ ประธานเครือข่ายลดบริโภคเค็ม ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย แถลงข่าว "การจัดงานสัปดาห์วันไตโลก ลดเค็มครึ่งหนึ่ง" ว่า จากการสำรวจการบริโภคเกลือของคนไทยโดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พบว่า คนไทย บริโภคเกลือและโซเดียมสูงเกินกว่าที่แนะนำ 2 เท่า หรือ 10.8 กรัม (โซเดียม 5,000 มิลลิกรัม) สูงเป็น 2 เท่าของที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน ที่ควรบริโภคไม่เกิน 5 กรัมต่อวัน (โซเดียม 2,400 มิลลิกรัม) โดยร้อยละ 71 มาจากการเติมเครื่องปรุงรสระหว่างการประกอบอาหาร ที่นิยมใช้มาก 5 ลำดับแรก คือ น้ำปลา ซีอิ๊วขาว เกลือ กะปิ และซอสหอยนางรม

ผศ.นพ.สุรศักดิ์กล่าวว่า เมื่อเปรียบเทียบจะพบว่าเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ มีปริมาณโซเดียม 6,000 มิลลิกรัม น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ มีปริมาณโซเดียม 1,160-1,420 มิลลิกรัม ซีอิ๊ว 1 ช้อนโต๊ะ มีปริมาณโซเดียม 960-1420 มิลลิกรัม ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะมีปริมาณโซเดียม 1,150 มิลลิกรัม กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ มีปริมาณโซเดียม 1,430-1,490 มิลลิกรัม ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ มีปริมาณโซเดียม 420-490 มิลลิกรัม นอกจากนี้ ยังพบว่าอาหารถุงปรุงสำเร็จ มีปริมาณโซเดียมเฉลี่ยต่อถุง 815 -3,527 มิลลิกรัม เช่น ไข่พะโล้ แกงไตปลา คั่วกลิ้ง เป็นต้น ส่วนอาหารจานเดียว มีปริมาณโซเดียม 1,000-2,000 มิลลิกรัมต่อ 1 จาน อาทิ ข้าวหน้าเป็ด ข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู และข้าวคลุกกะปิ เป็นต้น

"การรับประทานอาหารรสเค็มจัด จะส่งผลให้ความดันโลหิตสูง เพิ่มการรั่วของโปรตีนในปัสสาวะ และยังมีผลเสียต่อไตโดยตรง ทำให้หัวใจทำงานหนักก่อให้เกิดภาวะหัวใจวาย และความดันโลหิตสูง ความดันในสมองเพิ่มขึ้น มีโอกาสเป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ จึงควรสร้างนิสัยการรับประทานอาหารอ่อนเค็ม เพื่อสุขภาพที่ดี เริ่มจากการการลดเค็มลงครึ่งหนึ่ง จะช่วยคนไทยห่างไกลโรค" ผศ.นพ.สุรศักดิ์กล่าว และว่า การลดปริมาณโซเดียมที่รับประทานทำได้โดย หลีกเลี่ยงการใช้เกลือ น้ำปลา ซอสปรุงรสต่างๆ และผงชูรส ในการปรุงอาหาร, หลีกเลี่ยงการเติมเครื่องปรุง เช่น ปรุงรสเพิ่มในก๋วยเตี๋ยว เติมพริกน้ำปลาในข้าวแกง เป็นต้น

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556

ประโยชน์เกลือ


ประโยชน์ของเกลือนอกจากจะผสมในอาหารที่เรารับประทาน  ที่เพิ่มสารไอโอดีน  ช่วยให้คนเราไม่เป็นโรคคอพอกแล้ว
เกลือยังมีประโยชน์อีกมากมาย ทั้งการรักษาอาการโรคต่าง ๆ


1. โรคหวัด เมื่อเป็นจะมีอาการไอไม่หยุด ใช้น้ำเย็นต้มสุกแล้ว 1 ถ้วย ใส่เกลือ 1 ช้อนชา คนให้เกลือละลาย แล้วใช้บ้วนปากล้างคอ

ทำเช่นนี้หลาย ๆ ครั้ง สามารถขจัดเสมหะในหลอดลมได้ อาการไอก็ทุเลา

2. จมูกอักเสบ คัด น้ำมูกไหลไม่หยุด จมุกอักเสบเรื้อรัง ใช้น้ำเกลือเจือจางล้าง ใช้ขวดสะอาดใส่น้ำเกลือหยอดเข้าไปในรูจมูก

เพราะเกลือมีคุณสมบัติฆ่าเชื้อแก้อักเสบ


3. หากมีอาการคอแห้ง เสียงแหบ ให้ดื่มน้ำผสมเกลือเล็กน้อยจะรู้สึกชุ่มลำคอ
4. เร่งให้อาเจียน กินอาหารมีพิษ ดื่มสุราเกินขนาด อาหารไม่ย่อย ท้องไส้ปั่นป่วน ควรดื่มน้ำเกลือเข้มข้น จะทำให้อาเจียนออกมา
5. เป็นโรคตาแดง มีอาการบวมแดง ขี้ตามาก ใช้ผ้าขนหนูสะอาดห่อเกลือเล็กน้อย แช่ในน้ำอุ่นที่เดือดแล้ว ใช้ผ้าขนหนูเช็ดตา

อาจมีอาการแสบบ้างก็ทนสักครู่ จะรู้สึกดีขึ้น
6. รักษาฟัน ใช้เกลือสีฟัน ทำให้ฟันขาวแข็งแรง ป้องกันฟันผุ
7. หากยุงกัดเป็นตุ่ม ใช้เกลือขยี้บริเวณที่โดนกัด สักครู่จะหายคัน ตุ่มจะยุบ
8. ผิวหนังบวมคัน ใช้เกลือผสมน้ำแล้วทาบริเวณที่คัน จะเห็นผลทันตา
9. ถ้ารู้สึกสมองไม่แจ่มใส ใช้เกลือผสมน้ำอุ่นแล้วใช้อาบ จะรู้สึกสบาย สมองปลอดโปร่ง

อรรถประโยชน์

1.ใช้เกลือสำหรับดองผัก ผลไม้ใส่เนื้อเพื่อทำเนื้อเค็มเพื่อเป็นการถนอมอาหารไว้รับประทานได้นาน
2.ใส่เกลือผสมน้ำส้มสายชูดองผักให้ได้รสเปรี้ยว
3.ถ้าจะเก็บน้ำพริกเครื่องแกงเอาไว้ให้นานให้ใส่เกลือจะช่วยไม่ให้เครื่องแกงบูดเสียเร็ว
4.โขลกเกลือกับพริกแห้งก่อนใส่เครื่องแกงจะทำให้โขลกละเอียดเร็วขึ้น
5.โรยเกลือป่นบนมือหลังจากปอกหัวหอมหรือหลังจากทำปลากลิ่นจะหมดไป
6.ผสมเกลือในน้ำล้างผักเพื่อฆ่าเชื้อโรค
7.โรยเกลือป่นเล็กน้อยบนเตาไฟเพื่อช่วยให้ไม่ให้มีเขม่าดำ
8.โรยเกลือป่นเล้กน้อยลงบนกระทะเมื่อทอดปลาหมู เนื้อ ไก่ จะทำให้อาหารไม่ติดกระทะ
9.ใส่เกลือในผักต้มจะทำให้ผักมีสีเขียว
10.ถ้าใส่เกลือป่นเล็กน้อยในจานผลไม้แตงโมมะละกอ สัปะรด สตอเบอรี่ จะทำให้รสผลไม้หวานขึ้น

11.ใช้เกลือทำน้ำปลา กะปิปลาร้า ทำปลาเค็มและเนื้อสัตว์ ทุกชนิดที่จะทำให้แห้งเก็บไว้รับประทานนาน
12.ใส่เกลือในน้ำผลไม้คั้นที่มีรสเปรี้ยวจะทำให้มีรสอร่อย
13.จะเก็บมะขาม เปียกไว้ให้ทนนานไม่ให้ดำ และไม่มีหนอนให้โรยเกลือเม็ดให้ทั่ว เก็บไว้ภาชนะที่มีฝาปิด
14.เขียงที่ทำปลาสดเหม็นคาวให้โรยเกลือป่นจนทั่วแล้วล้างให้สะอาด จะทำให้เขียงหายเหม็นคาวหม้อ ระทะ ที่เหม็นคาว
เมื่อจะนำมาประกอบอาหารให้ใช้เกลือป่นโรยแล้วล้างจะช่วยให้หม้อกระทะหายเหม็นคาว
15.เวลาต้มไข่ใส่เกลือเล็กน้อยจะช่วยให้ปอกเปลือกล่อน
16.เวลาปั่นไอศกรีมใส่เกลือเม็ดในน้ำแข็งส่วนผสมที่ทำไอศกรีมไม่แข็งตัวเลย
17.ใช้เกลือสำหรับทำไข่เค็มและไข่เยี่ยวม้า
18.ต้มมะละใบขี้เหล็กลวกสะเดาใส่เกลือเล็กน้อยช่วยให้ความขมหายไป
19.มะม่วงกวน ฟักทองกวน กล้วยกวนใส่เกลือป่น 1 ช้อนชา ช่วยให้ขนมที่กวนมีรสหวานอร่อย และช่วยอยู่นานหลายวันไม่เสีย

20.นึ่งปลาโรยเกลือเล็กน้อยเพื่อไม่ให้เนื้อปลายุ่ยไม่เหม็นคาว
21.ส่วนผสมของขนมปัง คุกกี้ ปลาท่องโก๋ใส่เกลือผสมเล็กน้อย
22.น้ำเกลือแช่ผักที่มียาง
23.ทดลองง่ายๆว่าไข่สุกหรือไม่นำไข่ลอยในน้ำ 2 ลิตร ผสมเกลือ 1 ช้อนชาถ้าไข่สดไข่จะจมลงข้างล่างไข่ไม่สุกจะลอยขึ้นมา
24.ต้มผักควรเหยาะเกลือเล็กน้อยถ้าผักที่มีสีเขียวควรเปิดฝาต้มต้มหน่อไม้ควรปิดฝา
25.เอามือเเตะเกลือป่นก่อนทำปลาสดทำให้จับปลาได้ถนัดมือ
26.ตีไข่ขาวให้ฟูอย่างรวดเร็วใส่เกลือ 1/2 ช้อนชา
27.คั่วพริกขี้หนูแห้งใส่เกลือป่น 1 ช้อนชาจะทำให้ไม่ให้มีกลิ่นฉุน
28.ใส่เกลือเล็กน้อยในแป้งสาลี ที่นวดทำขนมทำให้แป้งยืดหยุ่นนุ่มนวล

29.โรยเกลือป่นเหนือตัวปลาก่อนย่างทำให้เนื้อปลาแข็ง
30.ล้างปลาหมึกด้วยน้ำเกลือจะทำให้ปลาหมึกขาวสะอาดและมีรสดี
31.กาแฟที่มีรสขมจัดใส่เกลือเล็กน้อยจะไม่ขม
32.มีดทำครัวเป็นสนิมใช้เกลือถูเช็ดให้แห้งมีดจะหายเป็นสนิม
33.ต้องการให้เนื้อสดที่เก็บไว้ในช่องแช่แข็งละลายเร็วขึ้นใส่เกลือแช่ไว้สักครู่จะช่วยละลายน้ำแข็งออกอย่างรวดเร็ว
34.เกลือแกงใช้ในการทำความสะอาดกำจัดความสกปรกได้เป็นอย่างดี
35.โถส้วมถ้าเทน้ำไม่ลงใส่เกลือเม็ด 1 กำมือ เพื่อให้เทน้ำลง
36.ซักผ้าม่านไหมให้นุ่มแช่ลงในน้ำ 1 แกนลอนผสมเกลือป่นก่อนนำไปซักตามแบบธรรมดา

สูตรผิวสวยด้วยเกลือ 

 ฟื้นฟูรอยหมองคล้ำรอบดวงตา

ส่วนประกอบ 

-เกลือ 1 ช้อนชา
-น้ำร้อนครึ่งถ้วย
-ผ้าขนหนูผืนเล็กหรือสำลีแผ่น                      
วิธีทำ
1.นำเกลือ 1 ช้อนชามาผสมลงในน้ำร้อนครึ่งถ้วยที่เตรียมไว้
2.ใช้ผ้าหรือสำลีชุบน้ำเกลือมาปิดตาไว้สัก 5-10 นาที
3.ล้างออกด้วยน้ำสะอาด แล้วเช็ดหน้าให้แห้ง
**ทำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง มันจะค่อยๆจางลงเอง**

ลดความมันบนใบหน้า

ส่วนประกอบ
-เกลือ 1 ช้อนชา
-น้ำร้อนปริมาณ 3/4 ของขวดสเปรย์
-ผ้าขนหนูผืนเล็ก
-ขวดสเปรย์(ไม่ต้องใหญ่มาก)
วิธีทำ
1.ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำร้อนพอหมาดๆ นำมาปิดหน้าประมาณ 3-5 นาที เพื่อปิดรูขุมขน
2.ใส่น้ำร้อนลงไปในขวดสเปรย์ เติมเกลือลงไป 1 ช้อนชา เขย่าให้เกลือละลาย
3.ฉีดน้ำเกลือใส่หน้าให้ทั่ว จากนั้นใช้ผ้าขนหนูเช็ดหน้าให้แห้ง
**ทำเป็นประจำทุกเช้า**

เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

ส่วนประกอบ
-เกลือ 1/2 ถ้วย
-น้ำอุ่นอุณหภูมิเหมาะสำหรับการลงไปแช่ตัว
-ครีมบำรุงผิวที่ใช้เป็นประจำ
วิธีทำ
1.ผสมเกลือ 1/2 ถ้วยลงไปในอ่างอาบน้ำจนเกลือละลาย
2.แช่ตัวประมาณ 15-20 นาที จากนั้นเช็ดตัวให้แห้ง
3.ทาครีมบำรุงผิวที่ใช้เป็นประจำ
**ระวังเข้าตาด้วย เพราะจะทำให้แสบ ควรแช่ตัวตั้งแต่ช่วงไหล่ลงไป**

ขัดผิวให้สวยใส

ส่วนประกอบ
-เกลือผงสำหรับขัดตัว
-น้ำอุ่นอุณหภูมิพอเหมาะ
-ครีมบำรุงผิวที่ใช้เป็นประจำล
-ฟองน้ำหรือผ้าขนหนู
วิธีทำ
1.ทำความสะอาดผิวด้วยน้ำอุ่นที่เตรียมไว้ โดยไม่ต้องเช็ดให้แห้ง
2.ใช้เกลือสำหรับขัดตัว โดยใช้ฟองน้ำ หรือผ้าขนหนูที่เตรียมไว้ขัดให้ทั่วตัว จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด เช็ดผิวให้แห้ง
3.ทาครีมบำรุงผิวที่ใช้เป็นประจำ
**เกลือจะช่วยให้เซลล์ผิวที่ตายหลุดออกมา และช่วยกระตุ้นการไหลเวียนชองเลือดด้วย**

ผ่อนคลายอาการเมื่อยที่เท้า

ส่วนประกอบ
-เกลือประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ
-น้ำอุ่นอุณหภูมิพอเหมาะ
-ถังน้ำสำหรับแช่เท้า
วิธีทำ
1.ผสมเกลือประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะลงในน้ำอุ่นจนเกลือละลาย
2.นั่งแช่เท้าประมาณ 30 นาที
3.ล้างออกด้วยน้ำสะอาด แล้วใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง
**เหมาะสำหรับคนที่เดินนานๆ หรือคนที่ใส่ส้นสูงตลอดวัน จะทำให้กล้ามเนื้อเท้าผ่อนคลายได้

เรื่องดี ๆ ต้องแบ่งปัน ^_^