เกลือไอโอดีนคือเกลือธรรมดาที่ถูกเสริมสารอาหารสำคัญอย่าง ไอโอดีน ซึ่งเป็นแร่ธาตุจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้ การบริโภคเกลือไอโอดีนมีประโยชน์หลักๆ ดังนี้
1. ป้องกันโรคขาดไอโอดีน (Iodine Deficiency Disorders: IDD)
โรคคอพอก: ไอโอดีนช่วยป้องกันการบวมของต่อมไทรอยด์ (คอพอก) ที่เกิดจากการขาดไอโอดีนเรื้อรัง
พัฒนาการสมองในเด็ก: หากหญิงตั้งครรภ์ขาดไอโอดีน ทารกอาจมีพัฒนาการทางสมองล่าช้า หรือเกิดภาวะ ปัญญาอ่อน (Cretinism)
ระบบประสาทและกล้ามเนื้อ: ไอโอดีนสำคัญต่อการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
2. สนับสนุนการทำงานของต่อมไทรอยด์
ไอโอดีนเป็นส่วนประกอบสำคัญของ ฮอร์โมนไทรอยด์ (T3 และ T4) ซึ่งควบคุมกระบวนการต่างๆ ในร่างกาย เช่น
การเผาผลาญพลังงาน
การเจริญเติบโต
อุณหภูมิร่างกาย
3. ประโยชน์ต่อกลุ่มคนเฉพาะ
หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร: ช่วยพัฒนาสมองและระบบประสาทของทารกในครรภ์
เด็กเล็ก: ส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญาและร่างกาย
ผู้ใหญ่: ป้องกันอาการอ่อนเพลียจากภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ
4. เป็นนโยบายสาธารณสุขที่คุ้มค่า
องค์การอนามัยโลก (WHO) ส่งเสริมการเติมไอโอดีนในเกลือแกง เพราะ:
เข้าถึงง่าย: เกลือเป็นวัตถุดิบพื้นฐานที่คนส่วนใหญ่บริโภคทุกวัน
ต้นทุนต่ำ: การเติมไอโอดีนในเกลือมีค่าใช้จ่ายน้อย แต่ป้องกันโรคได้มาก
ลดความเหลื่อมล้ำ: ช่วยประชากรในพื้นที่ห่างไกลที่ขาดแหล่งไอโอดีนจากอาหารทะเล
เกลือไอโอดีน vs เกลือชนิดอื่น
เกลือทะเล/เกลือหิมาลัย: มีไอโอดีนธรรมชาติ แต่ปริมาณไม่แน่นอน และมักน้อยกว่าเกลือไอโอดีน
เกลือสินเธาว์/เกลือสมุทร: ส่วนใหญ่ไม่มีไอโอดีน ยกเว้นระบุว่าเติมเพิ่ม
เกลือลดโซเดียม: อาจไม่มีไอโอดีน ต้องตรวจสอบฉลาก
คำแนะนำการใช้เกลือไอโอดีน
ใช้ปรุงอาหารแต่พอดี ไม่เกิน 1 ช้อนชาต่อวัน (WHO แนะนำ) เพื่อหลีกเลี่ยงโซเดียมเกิน
เก็บเกลือในที่แห้ง มิดชิด ป้องกันไอโอดีนระเหย
หากมีโรคไทรอยด์ (เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ) ควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภค
สรุป: เกลือไอโอดีนเป็นสิ่งจำเป็นต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลจากทะเล ที่สำคัญคือต้องบริโภคอย่างเหมาะสม เพราะแม้ไอโอดีนจะมีประโยชน์ แต่การกินเกลือมากเกินไปก็เสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงและหัวใจได้! 💡🧂
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น