ขายเกลือเสริมไอโอดีนถุงเล็ก

ขายเกลือไอโอดีน

  ขายเกลือบริโภคเสริมไอโอดีน ถุงเล็ก ขายส่งเหมาะสำหรับ ร้านค้าปลีก-ร้านค้าส่ง เพื่อจำหน่ายหรือ โรงพยาบาล สาธารณสุข รพ.สต.​ โรงพยาบาลส่งเสริม...

แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เกลือสินเธาว์ เกลือทะเล แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เกลือสินเธาว์ เกลือทะเล แสดงบทความทั้งหมด

ควรเลือกซื้อเกลือชนิดใดดีสำหรับการปรุงอาหารประเภทต่างๆ

 การเลือกซื้อเกลือสำหรับปรุงอาหารนั้นขึ้นอยู่กับประเภทของอาหารและรสชาติที่ต้องการค่ะ เกลือแต่ละชนิดจะมีลักษณะและรสชาติที่แตกต่างกันไป ลองมาดูกันว่าเกลือแต่ละชนิดเหมาะกับอาหารประเภทไหนบ้างนะคะ

เกลือสินเธาว์

  • จุดเด่น: มีแร่ธาตุหลากหลายชนิด ทำให้มีรสชาติที่ซับซ้อนและเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับนำมาปรุงอาหารที่ต้องการรสชาติกลมกล่อม เช่น สเต็ก ปลาอบ หรืออาหารที่ต้องการความหอมของสมุนไพร
  • เหมาะกับ: อาหารที่ต้องการรสชาติที่ซับซ้อนและเป็นธรรมชาติ เช่น อาหารฝรั่งเศส อาหารอิตาเลียน หรืออาหารไทยบางชนิด

เกลือทะเล

  • จุดเด่น: มีแร่ธาตุจากทะเล ทำให้มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และแตกต่างกันไปตามแหล่งที่มา เหมาะสำหรับนำมาปรุงอาหารทะเล หรืออาหารที่ต้องการรสชาติเค็มแบบธรรมชาติ
  • เหมาะกับ: อาหารทะเล ส้มตำ ผัดไทย หรืออาหารที่ต้องการรสชาติเค็มแบบเข้มข้น

เกลือหิมาลายัน

  • จุดเด่น: มีสีชมพูอ่อน มีแร่ธาตุหลากหลายชนิด ทำให้มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เหมาะสำหรับนำมาปรุงอาหารที่ต้องการเพิ่มความสวยงามและรสชาติที่เป็นธรรมชาติ
  • เหมาะกับ: อาหารที่ต้องการความสวยงาม เช่น สลัด ผักสด หรือใช้โรยหน้าอาหาร

เกลือไอโอดีน

  • จุดเด่น: มีการเติมไอโอดีนเพื่อป้องกันโรคคอหอยพอก เหมาะสำหรับการบริโภคประจำวัน
  • เหมาะกับ: อาหารทั่วไปที่ต้องการปรุงรสเค็ม

เกลือป่น

  • จุดเด่น: มีขนาดละเอียด ละลายน้ำได้ง่าย เหมาะสำหรับนำมาปรุงอาหารที่ต้องการความเค็มทั่วถึง
  • เหมาะกับ: อาหารที่ต้องการความเค็มทั่วถึง เช่น ซุป สตูว์ หรืออาหารที่ต้องการรสชาติเค็มแบบเรียบง่าย

เกลือทะเลดำ

  • จุดเด่น: มีสีดำ มีรสชาติเค็มและมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เหมาะสำหรับนำมาปรุงอาหารที่ต้องการเพิ่มความพิเศษ
  • เหมาะกับ: อาหารทะเล เนื้อย่าง หรืออาหารที่ต้องการเพิ่มความหอม

เกลือดำเกาหลี

  • จุดเด่น: มีสีดำ มีรสชาติเค็มและมีกลิ่นหอมของสาหร่าย เหมาะสำหรับนำมาปรุงอาหารเกาหลี
  • เหมาะกับ: อาหารเกาหลี เช่น บิบิมบับ กิมจิ

เคล็ดลับในการเลือกซื้อเกลือ

  • อ่านฉลาก: ตรวจสอบส่วนผสมและปริมาณโซเดียม
  • ลองชิมรสชาติ: ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรลองชิมรสชาติของเกลือแต่ละชนิด เพื่อเปรียบเทียบรสชาติและเลือกให้เหมาะกับความชอบ
  • เก็บรักษา: เก็บเกลือไว้ในที่แห้งและปิดสนิท เพื่อป้องกันความชื้น

สรุป การเลือกซื้อเกลือขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและประเภทของอาหารที่ต้องการปรุงค่ะ ลองเลือกเกลือที่หลากหลายชนิดมาใช้ เพื่อเพิ่มความอร่อยและความหลากหลายให้กับเมนูอาหารของคุณนะคะ

ทำไมเกลือสินเธาว์รสดีกว่าเกลือทะเล

 ที่หลายคนรู้สึกว่าเกลือสินเธาว์มีรสชาติอร่อยกว่าเกลือทะเลนั้น มีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องค่ะ

เหตุผลที่เกลือสินเธาว์มักมีรสชาติอร่อยกว่าเกลือทะเลนั้น อาจเป็นเพราะ:

  1. กระบวนการผลิตที่แตกต่าง:

    • เกลือสินเธาว์: เกิดจากการสะสมของเกลือในชั้นดินใต้ดินเป็นเวลานาน ทำให้มีการตกผลึกของเกลือที่ค่อนข้างบริสุทธิ์ และมักมีแร่ธาตุอื่นๆ เจือปนในปริมาณที่น้อยกว่าเกลือทะเล ซึ่งแร่ธาตุเหล่านี้สามารถเพิ่มความซับซ้อนและความอร่อยให้กับรสชาติได้
    • เกลือทะเล: เกิดจากการระเหยของน้ำทะเล ทำให้มีแร่ธาตุอื่นๆ จากทะเลเจือปนอยู่มากมาย เช่น แมกนีเซียม แคลเซียม และโพแทสเซียม แร่ธาตุเหล่านี้บางชนิดอาจทำให้เกลือมีรสชาติขมหรือเฝื่อนได้
  2. การบำบัด:

    • เกลือสินเธาว์: มักผ่านกระบวนการบำบัดน้อยกว่า ทำให้ยังคงมีรสชาติที่เป็นธรรมชาติและมีมิติ
    • เกลือทะเล: บางครั้งผ่านกระบวนการบำบัดเพื่อขจัดสิ่งเจือปน ทำให้รสชาติอาจเปลี่ยนแปลงไปบ้าง
  3. ความคาดหวัง:

    • ภาพลักษณ์: เกลือสินเธาว์มักถูกมองว่าเป็นเกลือธรรมชาติ มีคุณภาพสูง จึงทำให้ผู้บริโภคมีความคาดหวังในรสชาติที่ดีกว่า

อย่างไรก็ตาม รสชาติเป็นเรื่องส่วนบุคคล การที่บางคนรู้สึกว่าเกลือสินเธาว์อร่อยกว่า อาจเป็นเพราะความชอบส่วนตัว หรือประสบการณ์ในการรับประทานอาหารที่แตกต่างกันไปค่ะ

สรุปแล้ว ทั้งเกลือสินเธาว์และเกลือทะเลต่างก็มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และเหมาะสำหรับการนำไปใช้ในเมนูอาหารที่แตกต่างกันค่ะ การเลือกใช้เกลือชนิดใดขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวและวัตถุประสงค์ในการปรุงอาหาร

การเปรียบเทียบเกลือสินเธาว์กับเกลือทะเล

 เกลือสินเธาว์และเกลือทะเลเป็นเกลือที่เราใช้ในการปรุงอาหารกันอยู่เป็นประจำ แต่ทั้งสองชนิดมีลักษณะและคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป มาดูกันว่าแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

แหล่งที่มา

  • เกลือสินเธาว์: เกิดจากการสะสมตัวของเกลือในชั้นหินใต้ดิน เมื่อหลายล้านปีก่อน น้ำทะเลระเหยแห้งไป เหลือไว้แต่ชั้นของเกลือที่ฝังตัวอยู่ใต้ดิน
  • เกลือทะเล: ได้จากการระเหยน้ำทะเลตามธรรมชาติ โดยการตากแดดหรือใช้ความร้อนในการระเหย

ลักษณะทางกายภาพ

  • สี: เกลือสินเธาว์มักมีสีขาวบริสุทธิ์หรือสีเทา ขึ้นอยู่กับปริมาณแร่ธาตุที่เจือปน เกลือทะเลมักมีสีขาวขุ่น หรืออาจมีสีชมพูอ่อนๆ จากสาหร่าย
  • รสชาติ: เกลือสินเธาว์มีรสชาติเค็มบริสุทธิ์ เกลือทะเลมีรสชาติเค็มกลมกล่อม อาจมีรสชาติของแร่ธาตุเจือปนเล็กน้อย
  • ขนาดผลึก: เกลือสินเธาว์มีขนาดผลึกที่สม่ำเสมอ เกลือทะเลมีขนาดผลึกที่แตกต่างกันไป

องค์ประกอบทางเคมี

  • เกลือสินเธาว์: ส่วนใหญ่ประกอบด้วยโซเดียมคลอไรด์ (NaCl) แต่ก็มีแร่ธาตุอื่นๆ เจือปนอยู่บ้าง เช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม และแคลเซียม
  • เกลือทะเล: ประกอบด้วยโซเดียมคลอไรด์เป็นส่วนใหญ่ และมีแร่ธาตุอื่นๆ เช่น ไอโอดีน แมกนีเซียม และแคลเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ

การใช้งาน

  • เกลือสินเธาว์: เหมาะสำหรับใช้ในอุตสาหกรรม เนื่องจากมีความบริสุทธิ์สูง และใช้ในการปรุงอาหารบางชนิด เช่น การหมักดอง
  • เกลือทะเล: เหมาะสำหรับใช้ในการปรุงอาหารทั่วไป เนื่องจากมีรสชาติที่หลากหลาย และมีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย

สรุป

คุณสมบัติเกลือสินเธาว์เกลือทะเล
แหล่งที่มาชั้นหินใต้ดินน้ำทะเล
สีขาวบริสุทธิ์หรือสีเทาขาวขุ่น หรือสีชมพูอ่อน
รสชาติเค็มบริสุทธิ์เค็มกลมกล่อม
ขนาดผลึกสม่ำเสมอแตกต่างกันไป
องค์ประกอบโซเดียมคลอไรด์ และแร่ธาตุอื่นๆโซเดียมคลอไรด์ และแร่ธาตุอื่นๆ เช่น ไอโอดีน
การใช้งานอุตสาหกรรม, การปรุงอาหารบางชนิดการปรุงอาหารทั่วไป

ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม:

  • ปริมาณไอโอดีน: เกลือทะเลมีปริมาณไอโอดีนตามธรรมชาติสูงกว่าเกลือสินเธาว์ ซึ่งไอโอดีนเป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์
  • ราคา: เกลือสินเธาว์มักมีราคาถูกกว่าเกลือทะเล เนื่องจากกระบวนการผลิตที่ง่ายกว่า
  • รสชาติและกลิ่น: เกลือทะเลมีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์มากกว่าเกลือสินเธาว์ ทำให้เหมาะสำหรับใช้ในการปรุงอาหารที่ต้องการรสชาติที่ซับซ้อน

สรุปแล้ว ทั้งเกลือสินเธาว์และเกลือทะเลต่างก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน การเลือกใช้เกลือชนิดใดนั้น ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวและวัตถุประสงค์ในการใช้งาน

เกลือบังกลาเทศ: รสชาติแห่งแกงกะหรี่และอาหารพื้นเมือง

 เกลือบังกลาเทศ อาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายเท่ากับเกลือจากประเทศอื่นๆ แต่ก็มีบทบาทสำคัญในวัฒนธรรมการกินของชาวบังกลาเทศ โดยเฉพาะในอาหารประเภทแกงกะหรี่และอาหารรสจัดต่างๆ

ลักษณะเด่นของเกลือบังกลาเทศ

  • เกลือทะเล: ส่วนใหญ่ผลิตจากการระเหยน้ำทะเลตามธรรมชาติ โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งอ่าวเบงกอล
  • เกลือสินเธาว์: พบในบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณตอนเหนือที่ติดกับอินเดีย
  • รสชาติ: โดยทั่วไปเกลือบังกลาเทศจะมีรสชาติเค็มกลมกล่อม และมีแร่ธาตุเจือปนในปริมาณที่พอเหมาะ ทำให้อาหารมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์

การใช้เกลือบังกลาเทศ

เกลือบังกลาเทศถูกนำไปใช้ในการปรุงอาหารหลากหลายชนิด เช่น

  • ปรุงรสแกงกะหรี่: แกงกะหรี่เป็นอาหารประจำชาติของบังกลาเทศ การใช้เกลือในการปรุงรสแกงกะหรี่จึงมีความสำคัญมาก
  • ดองผัก: ใช้ในการดองผักต่างๆ เช่น มะม่วง
  • ทำน้ำปลา: เป็นส่วนผสมสำคัญในการทำน้ำปลา
  • ใช้ในอุตสาหกรรม: ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและอุตสาหกรรมอื่นๆ

เกลือบังกลาเทศกับอาหารบังกลาเทศ

เกลือบังกลาเทศเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้อาหารบังกลาเทศมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ เช่น

  • แกงกะหรี่: อาหารประจำชาติของบังกลาเทศที่มีรสชาติเข้มข้นและเผ็ดร้อน
  • บิริยานี: ข้าวผัดเครื่องเทศที่มีรสชาติหอมหวาน
  • ฟิชคารี: ปลาหมึกย่างที่หมักด้วยเครื่องเทศและเกลือ

ปัญหาและความท้าทาย

แม้ว่าเกลือบังกลาเทศจะมีบทบาทสำคัญในวัฒนธรรมการกิน แต่ก็ยังเผชิญกับปัญหาและความท้าทายบางประการ เช่น

  • การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: ส่งผลกระทบต่อการผลิตเกลือ
  • การแข่งขันจากเกลือนำเข้า: ทำให้เกษตรกรผู้ผลิตเกลือในประเทศต้องเผชิญกับความยากลำบาก
  • เทคโนโลยี: การผลิตเกลือในบางพื้นที่ยังคงใช้วิธีการแบบดั้งเดิม ทำให้ผลผลิตไม่สม่ำเสมอและมีต้นทุนสูง

สรุป

เกลือบังกลาเทศเป็นมากกว่าเครื่องปรุงรส มันคือส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของชาวบังกลาเทศ การสนับสนุนเกลือท้องถิ่นจึงเป็นการสนับสนุนวิถีชีวิตและภูมิปัญญาของชาวบ้านไปด้วย

เกลือจีน: รสชาติแห่งประวัติศาสตร์และความหลากหลาย

 เกลือจีนมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจีนมาอย่างยาวนาน โดยมีการผลิตเกลือมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยมีการผลิตเกลือจากแหล่งต่างๆ ดังนี้

  • เกลือทะเล: ผลิตจากการระเหยน้ำทะเลตามธรรมชาติ พบมากบริเวณชายฝั่งทะเล เช่น มณฑลซานตง และเจียงซู
  • เกลือจากเหมือง: ขุดได้จากแหล่งแร่เกลือใต้ดิน พบมากในมณฑลเสฉวน หูเป่ย เหอหนาน หูหนาน
  • เกลือจากทะเลสาบ: ผลิตจากการระเหยน้ำในทะเลสาบน้ำเค็ม เช่น ทะเลสาบชิงไห่

ลักษณะเด่นของเกลือจีน

  • หลากหลายสายพันธุ์: มีทั้งเกลือเม็ดละเอียด เกลือเม็ดใหญ่ เกลือสินเธาว์ และเกลือที่ผสมกับสมุนไพรต่างๆ
  • รสชาติ: มีทั้งรสชาติเค็มบริสุทธิ์ และรสชาติเค็มที่ผสมผสานกับรสชาติของแร่ธาตุต่างๆ
  • การใช้งาน: นอกจากใช้ปรุงอาหารแล้ว เกลือจีนยังถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การทำอาหารแปรรูป การผลิตเคมี และการบำบัดน้ำเสีย

เกลือจีนกับอาหารจีน

เกลือจีนเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้อาหารจีนมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ เช่น

  • อาหารจีนตอนเหนือ: มักใช้เกลือในการหมักอาหาร เช่น หมักเป็ดปักกิ่ง
  • อาหารจีนตอนใต้: มักใช้เกลือในการปรุงรสอาหารทะเลต่างๆ
  • อาหารจีนกวางตุ้ง: นิยมใช้เกลือในการทำอาหารประเภทติ่มซำ

ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเกลือจีน

เกลือมีความสำคัญต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวจีนมาช้านาน โดยมีการกล่าวถึงเกลือในตำนานและวรรณคดีจีนมากมาย เช่น

  • เกลือเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์: ในสมัยโบราณ เกลือเป็นสินค้าที่มีค่ามาก และเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง
  • เกลือใช้ในพิธีกรรม: เกลือถูกนำมาใช้ในพิธีกรรมทางศาสนาต่างๆ เช่น การบูชาเทพเจ้า

ปัญหาและความท้าทาย

แม้ว่าเกลือจีนจะมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม แต่ก็ยังเผชิญกับปัญหาและความท้าทายบางประการ เช่น

  • การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: ส่งผลกระทบต่อการผลิตเกลือ
  • การแข่งขันจากเกลือนำเข้า: ทำให้เกษตรกรผู้ผลิตเกลือในประเทศต้องเผชิญกับความยากลำบาก
  • เทคโนโลยี: การผลิตเกลือในบางพื้นที่ยังคงใช้วิธีการแบบดั้งเดิม ทำให้ผลผลิตไม่สม่ำเสมอและมีต้นทุนสูง

สรุป

เกลือจีนเป็นมากกว่าเครื่องปรุงรส มันคือส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชาวจีน การสนับสนุนเกลือท้องถิ่นจึงเป็นการสนับสนุนวิถีชีวิตและภูมิปัญญาของชาวบ้านไปด้วย

ประวัติความเป็นมาของเกลือสินเธาว์: ทองคำขาวแห่งอีสาน

 เกลือสินเธาว์เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญต่อมนุษย์มาตั้งแต่โบราณกาล โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเกลือสินเธาว์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก

กำเนิดเกลือสินเธาว์

เกลือสินเธาว์เกิดจากกระบวนการทางธรรมชาติที่ซับซ้อน โดยน้ำทะเลโบราณเมื่อระเหยไปจะทิ้งผลึกเกลือไว้ใต้ดิน เมื่อเวลาผ่านไปหลายล้านปี ชั้นเกลือเหล่านี้ก็กลายเป็นหินเกลือ หรือที่เราเรียกว่า เกลือสินเธาว์

ความสำคัญของเกลือสินเธาว์ในอดีต

  • การแลกเปลี่ยนสินค้า: เกลือสินเธาว์มีความสำคัญในการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างชุมชนต่างๆ เนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่จำเป็นต่อการปรุงอาหารและถนอมอาหาร
  • สัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง: เกลือสินเธาว์เคยถูกเปรียบเทียบว่าเป็น "ทองคำขาว" เนื่องจากมีค่าสูงและเป็นที่ต้องการของผู้คน
  • วัฒนธรรมและประเพณี: เกลือสินเธาว์มีความเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมและประเพณีของชุมชนมาช้านาน มีการนำเกลือมาใช้ในพิธีกรรมต่างๆ และเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต

การผลิตเกลือสินเธาว์แบบดั้งเดิม

ในอดีต ชาวบ้านมีวิธีการผลิตเกลือสินเธาว์แบบดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน โดยอาศัยภูมิปัญญาและทรัพยากรที่มีอยู่ เช่น

  • การขุด: ขุดดินเค็มหรือขี้ทาขึ้นมาจากใต้ดิน
  • การละลาย: นำดินเค็มมาละลายน้ำ
  • การกรอง: กรองเอาตะกอนออก
  • การต้ม: ต้มน้ำเกลือจนน้ำระเหยหมด เหลือแต่ผลึกเกลือ

แหล่งผลิตเกลือสินเธาว์ที่สำคัญในประเทศไทย

  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: โดยเฉพาะจังหวัดสกลนคร นครราชสีมา ชัยภูมิ และบุรีรัมย์ เป็นแหล่งผลิตเกลือสินเธาว์ที่สำคัญของประเทศไทย

การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมเกลือสินเธาว์

ปัจจุบัน การผลิตเกลือสินเธาว์ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก มีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการผลิต ทำให้ได้ปริมาณเกลือที่มากขึ้นและมีความบริสุทธิ์สูงขึ้น

เกลือสินเธาว์ในปัจจุบัน

เกลือสินเธาว์ยังคงมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมอาหาร เคมี และเภสัชกรรม นอกจากนี้ ยังมีการนำเกลือสินเธาว์มาใช้ในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงามอีกด้วย

สรุป

เกลือสินเธาว์มีประวัติความเป็นมายาวนานและมีความสำคัญต่อมนุษย์มาตั้งแต่โบราณกาล การศึกษาประวัติความเป็นมาของเกลือสินเธาว์ ช่วยให้เราเข้าใจถึงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ และเห็นคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติชนิดนี้

เกลือทะเลข้อเสีย

 เกลือทะเลแม้จะมีประโยชน์หลายอย่าง แต่ก็มีข้อเสียที่ควรพิจารณาเช่นกันค่ะ ข้อเสียหลักๆ ของเกลือทะเล ได้แก่

  • ปริมาณไอโอดีนไม่สม่ำเสมอ: แม้ว่าเกลือทะเลจะมีไอโอดีนตามธรรมชาติ แต่ปริมาณไอโอดีนในเกลือทะเลแต่ละแหล่งอาจแตกต่างกันไป ทำให้การควบคุมปริมาณไอโอดีนที่ร่างกายได้รับทำได้ยากขึ้น
  • ปริมาณแร่ธาตุอื่นๆ: เกลือทะเลมีแร่ธาตุอื่นๆ เจือปนอยู่มากมาย ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคบางชนิด เช่น โรคไต หรือผู้ที่ต้องควบคุมปริมาณโซเดียมในร่างกาย
  • ความชื้นสูง: เกลือทะเลมักมีความชื้นสูงกว่าเกลือสินเธาว์ ทำให้เกลือจับตัวเป็นก้อนได้ง่าย และอาจทำให้เกิดเชื้อราได้หากเก็บไว้ในที่ชื้น
  • ราคาสูงกว่า: โดยทั่วไปแล้ว เกลือทะเลจะมีราคาสูงกว่าเกลือสินเธาว์ เนื่องจากกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนกว่า

ข้อควรพิจารณาในการเลือกใช้เกลือทะเล

  • แหล่งที่มา: เลือกซื้อเกลือทะเลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความสะอาด
  • ปริมาณไอโอดีน: หากกังวลเรื่องปริมาณไอโอดีน ควรเลือกเกลือทะเลที่เสริมไอโอดีน หรือปรึกษาแพทย์ก่อนการบริโภค
  • วิธีการเก็บรักษา: เก็บเกลือทะเลในภาชนะปิดสนิท และเก็บในที่แห้ง เพื่อป้องกันความชื้นและการปนเปื้อน
  • ปริมาณการบริโภค: ควรบริโภคเกลือทะเลในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการบริโภคโซเดียมมากเกินไป

สรุป

เกลือทะเลเป็นเกลือธรรมชาติที่มีรสชาติอร่อยและมีแร่ธาตุต่างๆ แต่ก็มีข้อเสียบางประการที่ควรพิจารณาในการเลือกใช้ การเลือกใช้เกลือชนิดใดนั้นขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลและความเหมาะสมกับสุขภาพของแต่ละคน

เกลือสินเธาว์ดียังไง

 เกลือสินเธาว์นั้นมีคุณสมบัติและข้อดีหลายประการที่ทำให้เป็นที่นิยมนำไปใช้ในอุตสาหกรรมและการผลิตต่างๆ นะคะ ดังนี้ค่ะ

ข้อดีของเกลือสินเธาว์

  • ความบริสุทธิ์สูง: เกลือสินเธาว์โดยทั่วไปจะมีความบริสุทธิ์สูง เนื่องจากเกิดจากการระเหยของน้ำทะเลโบราณ ทำให้มีปริมาณโซเดียมคลอไรด์สูง และมีแร่ธาตุอื่นๆ เจือปนน้อยกว่าเกลือชนิดอื่น
  • ไม่มีไอโอดีน: สำหรับบางอุตสาหกรรม การที่เกลือสินเธาว์ไม่มีไอโอดีนตามธรรมชาตินั้นเป็นข้อดี เพราะสามารถควบคุมปริมาณไอโอดีนในผลิตภัณฑ์ได้อย่างแม่นยำ
  • เม็ดเกลือสม่ำเสมอ: เกลือสินเธาว์มักจะมีเม็ดเกลือที่ขนาดสม่ำเสมอ ทำให้ควบคุมปริมาณการใช้ได้ง่าย
  • ละลายน้ำได้ดี: เกลือสินเธาว์ละลายน้ำได้ง่าย ทำให้สะดวกในการนำไปใช้ในกระบวนการผลิตต่างๆ
  • ราคาถูก: เมื่อเทียบกับเกลือชนิดอื่นๆ เกลือสินเธาว์มักจะมีราคาที่ถูกกว่า เนื่องจากมีปริมาณสำรองมากและกระบวนการผลิตค่อนข้างง่าย

การนำเกลือสินเธาว์ไปใช้ประโยชน์

  • อุตสาหกรรม:
    • อุตสาหกรรมเคมี: ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตโซดาแอช โซดาไฟ คลอรีน และสารเคมีอื่นๆ
    • อุตสาหกรรมอาหาร: ใช้ในการถนอมอาหาร เช่น การหมักดอง และเป็นส่วนประกอบในอาหารแปรรูปต่างๆ
    • อุตสาหกรรมเภสัชกรรม: ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตยาบางชนิด
  • การเกษตร:
    • ใช้ปรับปรุงดิน
    • ใช้เป็นปุ๋ย
  • การบำบัดน้ำ: ใช้ในการบำบัดน้ำเสีย

ข้อควรระวัง

  • การบริโภค: เกลือสินเธาว์โดยทั่วไปไม่มีไอโอดีน ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ดังนั้นจึงไม่ควรบริโภคเกลือสินเธาว์โดยตรงเป็นประจำ ควรเลือกบริโภคเกลือที่เสริมไอโอดีน
  • ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม: การขุดเจาะเกลือสินเธาว์อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การเกิดหลุมยุบ หรือการปนเปื้อนของน้ำใต้ดิน

สรุป

เกลือสินเธาว์มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมและการผลิตต่างๆ เนื่องจากมีความบริสุทธิ์สูง ราคาถูก และมีคุณสมบัติที่เหมาะสมต่อการนำไปใช้ประโยชน์ แต่การใช้เกลือสินเธาว์ก็ต้องคำนึงถึงข้อควรระวังและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยนะคะ

ขาดเกลือต้องแพ้ศีก

 อยุธยากับภารกิจพิชิตเกลือ

ขาดเกลือต้องแพ้ศึก อยุธยาทำอย่างไรเมื่อถูกล้านนาตัดเส้นทางค้าเกลือ

ทุกคนน่าจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วใช่ไหมล่ะครับ ว่าในสมัยโบราณเนี่ยเกลือเป็นทรัพยากรที่มีความสำคัญมาก ถ้าใครนึกไม่ออกว่าสำคัญขนาดไหนก็ลองเอาไปเทียบกับเครื่องเทศดู เครื่องเทศเป็นสินค้าราคาแพงที่ใช้ปรุงอาหารให้มีกลิ่นรส (Flavor) ส่วนเกลือเป็นวัตถุดิบที่เอาไว้ชูรสชาติ (Taste) ถ้าเรามีแต่เครื่องเทศแต่ไม่มีเกลือ อาหารก็มีแต่กลิ่นรสไม่มีตัวชูรสชาติ ดังนั้นในดินแดนที่ไม่สามารถผลิตเกลือสมุทรเองได้ เกลือจึงเป็นสินค้าที่เป็นที่ต้องการสูงมาก

โดยเฉพาะในสังคมอยุธยาสมัยศักดินาที่อาหารการกินส่วนใหญ่ของชาวบ้านมักจะประกอบไปด้วยข้าว ผัก และปลา (นานๆ ทีจะได้กินสัตว์ใหญ่อย่างหมูหรือเนื้อ) ตามสภาพภูมิประเทศและวิถีชีวิตที่ยึดโยงกับไร่นา ป่าไม้และแม่น้ำ เกลือจึงเป็นส่วนประกอบสำคัญในทุกครัวเรือนเพราะถ้าไม่มีเกลือปลาจะไม่อร่อย นอกจากจะใช้ใส่อาหารตรงๆ แล้ว เกลือยังใช้หมักทำน้ำปลา และใช้ถนอมอาหารอีกด้วย

นอกจากความสำคัญในระดับครัวเรือนแล้ว เกลือยังถือเป็นยุทธปัจจัยที่มีความสำคัญในยามศึกสงคราม พระเจ้าตากสินถึงขนาดสร้างฉางเกลือไว้เก็บเป็นเสบียงยามศึกโดยเฉพาะ เพราะกรุงธนบุรีไม่เคยว่างเว้นจากการศึก (ปัจจุบันฉางเกลืออยู่ในวัดโมลีโลก) เกลือนั้นนอกจากจะใช้ปรุงอาหารในค่ายและถนอมอาหารให้เดินทัพได้นานๆ แล้ว เกลือยังมีความสำคัญกับเรี่ยวแรงของทหารในทัพอีกด้วย เพราะการรบทัพจับศึกที่ใช้พละกำลังจนเหงื่อโชกเป็นแรมเดือนนั้นย่อมต้องทำให้ทหารอ่อนล้าและสูญเสียแร่ธาตุ ทหารในกองทัพจึงต้องการเกลือมาบำรุงกำลังวังชาเหมือนที่เราต้องดื่มเกลือแร่หลังออกกำลังกายหรือตอนท้องเสีย นอกจากทหารแล้วพวกสัตว์อย่างม้าศึกเองก็จำเป็นต้องกินเกลือด้วย มิเช่นนั้นก็ไม่มีแรงวิ่งเช่นกัน จึงเรียกได้ว่าในสมัยโบราณหากอาณาจักรไหนขาดเกลือก็เกียมขิตได้เลย

พวกเราที่เกิดในยุคอุตสาหกรรมเกลือสมุทรเฟื่องฟูอาจจะไม่ได้สัมผัสถึงคุณค่าของเกลือสินเธาว์ หลายอาณาจักรในอดีตไม่รู้วิธีผลิตเกลือสมุทร (Sea salt) ทำให้ส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาเกลือสินเธาว์ (Rock Salt) ดินแดนแถบประเทศไทยในอดีตมีแหล่งผลิตเกลือขนาดใหญ่อยู่ไม่กี่ที่เท่านั้น คือ

1.วรนครแห่งปัว - ปัจจุบันคือจังหวัดน่าน เป็นแหล่งผลิตเกลือสินเธาว์ที่ใหญ่ที่สุดในแถบนี้ วรนครทำการผลิตเกลือโดยตักน้ำเกลือธรรมชาติ (Brine) จากที่เกิดจากชั้นหินเกลือใต้ภูเขามาต้มให้น้ำระเหย เกลือน่านเป็นเกลือสินเธาว์ที่ขาวจั๊วะคุณภาพดี เป็นสินค้าที่สร้างอำนาจทางเศรษฐกิจให้กับวรนครผ่านการค้าขายกับอาณาจักรสุโขทัย

2. ดินแดนแถบที่ราบสูงโคราช - กินพื้นที่หลายจังหวัดในภาคอีสานปัจจุบัน แต่เกลือสินเธาว์ที่นี่มีกรรมวิธีการผลิตแตกต่างจากของน่าน คือจะใช้ดินเค็มมาละลายน้ำ แล้วเอาน้ำไปต้มต่อให้น้ำระเหยจนได้ผลึกเกลืออีกทีหนึ่ง ด้วยการผลิตที่เพิ่มขั้นตอนเข้ามาจึงทำให้ดินแดนแถบนี้ผลิตเกลือสินเธาว์ได้น้อยกว่า ช้ากว่า สีคล้ำกว่า และผลิตเฉพาะฤดูหลังนาเท่านั้น นอกจากนั้นผลผลิตส่วนใหญ่ก็ถูกส่งไปขายให้อาณาจักรของเขมร

3. จีน - เป็นชนชาติเดียวแถบนี้ที่มีปัญญาผลิตเกลือสมุทรได้ เกลือเป็นสินค้าผูกขาดโดยราชสำนัก วิธีการผลิตเกลือสมุทรเป็นความลับที่ห้ามเปิดเผย ปัญญาชนที่รู้กระบวนการผลิตเกลือสมุทรจะถูกสั่งห้ามย้ายถิ่นฐานเพื่อป้องกันความลับรั่วไหล
.
เนื่องจากเกลือสินเธาว์อีสานผลิตได้ยากกว่าและมีคู่ค้าคือเขมรอยู่แล้ว และเกลือสมุทรจีนก็ต้องเดินทางไปซื้อถึงถิ่น เกลือน่านหรือเกลือวรนครจึงเป็นผู้ผลิตที่ทรงอิทธิพลที่สุดในละแวกนี้

การผลิตเกลือของเมืองปัวจะมีลักษณะเหมือนสังคมศักดินาทั่วไปในยุคนั้น คือ บ่อเกลือทั้ง 9 บ่อถูกผูกขาดโดยคนของราชวงศ์ภูคาที่ปกครองกลุ่มนครรัฐน่าน ไพร่พลถูกเกณฑ์มาตักเกลือต้มเกลือและบรรทุกวัวออกไปขายให้กับดินแดนรอบข้าง โดยมีสุโขทัยเป็นจุดรับซื้อสินค้าที่จะบรรทุกเรือลงแม่น้ำยมลงไปดินแดนทางใต้ถึงอยุธยาและเมืองติดทะเล (แน่นอนว่าเมืองติดทะเลก็ต้องการเกลือ เพราะสมัยนั้นไม่มีใครรู้ว่าทำนาเกลือสมุทรอย่างไร ครั้นเอาน้ำทะเลมาต้มก็ได้เกลือปริมาณน้อยมากจนไม่คุ้มเวลา) ด้วยความที่น่านทำมาค้าขายกับสุโขทัยเป็นหลัก จึงทำให้ความสัมพันธ์ของสองรัฐนี้แนบแน่นเป็นอย่างยิ่ง

และแล้วความตึงเครียดก็บังเกิด ใน ค.ศ. 1450 พระเจ้าติโลกราชแห่งล้านนาส่งกองทัพมายึดเมืองปัวและเริ่มบอยคอตไม่ส่งเกลือมาขายที่สุโขทัย (รวมถึงเกลือจากแหล่งผลิตขนาดเล็กในเมืองอื่น เช่น เขลางค์ เชียงคำ เชียงของ) ทำให้เส้นทางการค้าเกลือสู่แดนใต้ขาดสะบั้น ผลของการยึดเมืองปัวเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้พระยายุทธิษฐิระแห่งเมืองสองแควชิงหักหลังอยุธยาไปเข้ากับล้านนา (ประวัติศาสตร์กระแสหลักให้เหตุผลว่าพระยายุทธิษฐิระงอนพระบรมไตรโลกนาถ) และการหักหลังของพระยายุทธิษฐิระนี้เอง ก็ได้กลายเป็นชนวนเหตุของสงครามอยุธยา-ล้านนา (ครั้งที่ 2) ในสมัยพระบรมไตรโลกนาถ

สงครามอยุธยา-ล้านนาครั้งนี้กินระยะเวลาราว 24 ปี ตั้งแต่ปี 1451 จนถึงปี 1475 ในขณะที่สงครามดำเนินไปอย่างเชือดเฉือนทั้งบุ๋นบู๊ อยุธยาก็ถูกตัดเส้นทางลำเลียงเกลือจากแหล่งผลิตแดนเหนือนานกว่าทศวรรษจนทำให้ชาวอยุธยาเดือดร้อนทั้งเจ้านายทั้งไพร่ เกิดเป็นวิกฤตขาดแคลนเกลือครั้งใหญ่ขึ้น

อยุธยาพยายามแก้เกมโดยการหาแหล่งขายเกลือแหล่งใหม่ ในขั้นต้นอยุธยาได้จ้างคนจีนชื่อ "เจี่ยบุ้งปิง" มาเป็นขุนนางและให้เดินทางไปค้าขายกับจีน และในขากลับนั้นเอง เจี่ยบุ้งปิงก็ได้ลอบซื้อเกลือเถื่อนกลับมาเป็นจำนวนมาก จนจักรพรรดิจีนต้อง "สั่งให้อำมาตย์ตักเตือนห้ามปรามพวก 'ฮวน' มิให้กระทำเช่นนั้นอีก"

ในภายหลังไม่ทราบว่าอยุธยาใช้กลอุบายอันใด หรือมีภารกิจรอบเร้นแฝงกายอย่างไรบ้าง แต่สุดท้ายแล้วอยุธยาก็ได้สูตรการทำนาเกลือสมุทรมา!!

หลักการทำงานของนาเกลือสมุทรก็คือ แบ่งพื้นที่นาไว้เป็นส่วนๆ วิดน้ำทะเลเข้านาส่วนแรกทิ้งไว้ให้ตกตะกอนจนใส จากนั้นจึงส่งน้ำไปส่วนต่อไปเพื่อตากแดดให้ระเหยจนมีความเค็มมากขึ้น ทำซ้ำอีกสองครั้งจนเกิดผลึกเกลือขึ้นพร้อมเก็บเกี่ยว

อยุธยาเริ่มเมกะโปรเจกต์ทดลองทำนาเกลือสมุทรครั้งแรกในสมัยพระบรมไตรโลกนาถทันที โปรเจกต์นี้หลานของพระบรมไตรโลกนาถพาไพร่พลไปทดลองทำกันครั้งแรกที่อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ดังที่เอกสารตำนานเมืองนครศรีธรรมราชว่าไว้ว่า

“…พระพนมทะเลศรีมเหสวัสดิทราราชกษัตริย์พระบวรเชษฐา พระราชกุมารอันเป็นพระเจ้าหลาน และพระก็ลาพระปู่พระย่ามาตั้งที่เพชรบุรี ท่านเอาพลมา 33,000 ช้างพังพลาย 500 ม้า 700 พลอันตามท่านมาเองนั้น 5,400 ท่านตั้งรั้ววัง เรือนหลวงหน้าพระลาน เรือนชาวแม่พระสนม แล้วก็ให้ท่านทำนาเกลือ แลท่านก็เอามาถวายแก่พระเจ้าปู่พระเจ้าย่าๆ ท่านก็ชื่นชมนักหนาว่าพระเจ้าหลานเรารู้หลัก มีบุญญาอันประเสริฐทุกประการ…”

เมื่ออยุธยาสามารถผลิตเกลือได้เองในปริมาณมหาศาล อยุธยาและหัวเมืองทางใต้ก็ไม่จำเป็นต้องง้อล้านนาอีกต่อไป และแล้วภูมิภาคนี้ก็ได้ผู้ผลิตเกลือรายใหม่คือเมืองเพชรบุรีซึ่งเป็นหัวเมืองของอาณาจักรอยุธยา อาณาจักรที่กำลังจะเรืองอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ ในกาลต่อมาครับ

อ้างอิง

ศุภกาณฑ์ นานรัมย์. (2564). ความเป็นพหุสังคมอยุธยากับวัฒนธรรมอาหารเพื่อการท่องเที่ยว ตามรอยเสด็จประพาสต้นพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา. https://bit.ly/3QRnhSe

คมชัดลึก. (2565). ชม วิหารฉางเกลือ วัดโมลีโลกยารามราชวรวิหาร. https://bit.ly/3eYRpOn

ภาสพันธ์ ปานสีดา. (2563). “กองเกียกกาย”..หัวใจหลักแห่งปากท้องกองทัพ. https://bit.ly/3BOvylD

เพ็ญสุภา สุขคตะ. (2561). “ล้านนาศึกษา” ใน “ไทศึกษา” ครั้งที่ 13 (23) เกลือเมืองน่าน : ยุทธศาสตร์ร้อนแรงแห่งสมรภูมิเลือด ล้านนา-อยุธยา. https://bit.ly/3RVPN6w

กฤช เหลือลมัย. (2561). เกลือสินเธาว์โบราณ ที่ “บ่อกระถิน” แหล่งทำเกลือสินเธาว์แบบพื้นบ้านสืบเนื่องยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน. https://bit.ly/3Ll1nWc

ประทีป ชุมพล. (2542). ความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรม เน้นเฉพาะเรื่องการทำนาเกลือสมุทรระหว่างเมืองเพชรบุรี-เมืองนครศรีธรรมราช (พุทธศตวรรษที่ 19-22) : การตีความในเอกสารท้องถิ่น. https://bit.ly/3Dxs5ZS