ภาพ "การผลิตเกลือ" เมื่อครั้งอดีต..ปีพุทธศักราช ๒๕๐๐
"เกลือสินเธาว์' (*หรือ "เกลือหิน")
"ภาคอีสาน" มีชุมชนที่ผลิตเกลือในระดับอุตสาหกรรมโบราณ
มาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์..
ดังหลักฐานทางโบราณคดีที่พบในบริเวณ..
#"บ่อพันขัน" เขตทุ่งกุลาร้องไห้ จังหวัดร้อยเอ็ด..
#"ลุ่มน้ำสงคราม" แอ่งสกลนคร..
หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จ ในหน้าแล้งช่วงเดือนกุมภาพันธ์..
ตามท้องนาจะมี "ดินเอียด" หรือ
ที่ชาวอีสานเรียกว่า "ขี้ทา"
(*"ดินเค็ม" ที่มีละอองหรือส่าเกลือ)
ขึ้นมาบนผิวดินให้เห็นเป็นสีขาวหรือสีเทา ชาวบ้านลงมือ "ขูดดินเอียด" เพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบในการ "ต้มเกลือ"
ก่อนต้มเกลือชาวบ้านจะทำพิธี "บอกกล่าวเจ้าที่" เพื่อเป็นศิริมงคล ขอให้การต้มเกลือไม่มีอุปสรรค และให้ได้ผลผลิตมากตามต้องการ จากนั้นจึงเริ่มดำเนินการต้มเกลือ..
โดยนำ "ดินเอียดผสมแกลบข้าว"
(*หรือเศษฟาง)
ใส่ใน "รางเกรอะน้ำเกลือ"
มีลักษณะคล้าย "เรือ" ความยาวประมาณ ๒ - ๔ เมตร..
หรือบางท้องที่ อาจใช้อ่างปูนซีเมนต์แทน เมื่อเทน้ำสะอาดใส่ในรางเกรอะเกลือ..
"น้ำเอียด" ที่ผ่านการกรองแบบธรรมชาติจะไหลออกจากรู ลงในภาชนะที่รองไว้ด้านล่างของรางเกรอะ..
เพื่อให้ได้น้ำเอียดที่เพียงพอต่อการต้มแต่ละครั้ง..
โดยชาวบ้านจะใช้ภูมิปัญญาการ "วัดความเค็ม" จากน้ำที่รองได้ ๒ วิธี คือ..
๑. นำ "ไข่เป็ด" ที่ยังไม่สุกมาลอยในน้ำเอียด..
#ถ้าไข่เป็ด "ไม่จมน้ำ" แสดงว่าความเค็มมากสามารถนำมาต้มเป็นเกลือได้..
#ถ้าไข่เป็ด "จมน้ำ" แสดงว่าความเค็มยังไม่เพียงพอที่จะนำมาต้มเป็นเกลือ..
๒. ใช้ "ครั่งหรือขี้ครั่ง" ขนาดก้อนเท่าหัวแม่มือ นำมาลอยในน้ำเอียด..
#ถ้า "ก้อนครั่งลอย" แสดงว่ามีความเค็มมาก..
(*เช่นเดียวกับการวัดด้วยไข่เป็ด)
เมื่อได้ "น้ำเอียด" ที่สามารถต้มเป็นเกลือได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ..
นำน้ำเอียดมา "เคี่ยวหุง" โดยใช้ "กะทะที่ทำจากแผ่นสังกะสี" สุมไฟไปตลอด จนน้ำระเหยกลายเป็น "ผลึกเกลือสีขาวขุ่น"
จากนั้น "ตักเกลือ" ใส่ตระกร้าไม้ไผ่ ผึ่งเกลือไว้ให้แห้ง..
เสร็จแล้วก็นำเกลือมาบรรจุ "กะทอ"
(*ที่ทำด้วยไม้ไผ่สานอย่างชะลอม) เป็นรูปทรงกระบอก..
"ขนาด" ของกะทอขึ้นอยู่กับผู้ใช้..
ส่วนใหญ่ขนาดพอบรรจุเกลือ ที่มีน้ำหนัก ๑ หมื่น (๑๒ กิโลกรัม) ก่อนบรรจุเกลือ ใช้ "ใบไม้" รองด้านใน..
"เกลือกะทอ" ของชาวอีสานในอดีต
เป็นทั้งสินค้าซื้อขาย และแลกเปลี่ยนของพ่อค้าทางไกล..
ชาวอีสานเรียกว่า "นายฮ้อยเกลือ"
"เกลือกะทอ" สามารถเก็บไว้บริโภคได้นานแรมปี..
"เกลือกะทอ"หนัก ๑๒ กิโลกรัม ราคาประมาณ ๑๕๐ - ๒๐๐ บาท (*พุทธศักราช ๒๕๕๙)
"ระยะเวลา" การผลิตเกลือสินเธาว์
อยู่ระหว่างเดือน "กุมภาพันธ์" ไปจนถึงปลายเดือน "เมษายน" ของทุกปี..
ปัจจุบัน ในภาคอีสานมีการผลิตเกลืออยู่ ๓ รูปแบบ คือ..
๑. การผลิตเกลือ "แบบดั้งเดิม"
(*ดังที่กล่าวมาข้างต้น) นิยมผลิตทั่วไปในบริเวณจังหวัดมหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อุบลราชธานี กาฬสินธุ์..
๒. การผลิตเกลือโดยวิธี "สูบน้ำเกลือจากใต้ดิน" ขึ้นมาเคี่ยวหุง..
ชุมชนที่ผลิตเกลือลักษณะนี้คือ..
"บ่อเกลือหัวแฮด" บ้านท่าสะอาด ตำบลท่าสะอาด อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ..
๓. การผลิตเกลือด้วยวิธี "สูบน้ำเค็มจากใต้ดิน" ขึ้นมาตากแดด ที่เรียกว่า "นาเกลือ"
อยู่ที่ "อำเภอบ้านดุง" จังหวัดอุดรธานี..
และ "อุตสาหกรรมเกลือบริสุทธิ์" อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา..
*****
**กราบขอบพระคุณรายละเอียดของข้อมูลทั้งหมดจาก..
(*คุณ "จักรมนตรี เซียงบี ชนะพันธ์")
มา ณ ที่นี้เป็นอย่างสูงด้วยนะคะ..🙏🌺
............................................
#Photograph : Dr. Robert Larimore Pendelton
#Image Source : Univetsity of Wisconsin-Milwaukee Libraries
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น